บทเรียนจาก การเปิดเรียนในต่างประเทศ
วันนี้ 15 กรกฎาคม 2563 มีการปิดโรงเรียนทั่วจังหวัดระยองและ โรงเรียนในกรุงเทพฯ บางแห่งเพื่อควบคุมและป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา ในกรณีนี้หากไวรัสโคโรนากลับมาระบาดอีกครั้ง พวกเราคนไทยจะต้องรับมืออย่างไร เรามาเรียนรู้การจัดการจากประเทศอื่นเพื่อมาปรับใช้กับสถานการณ์ในประเทศไทยกันค่ะ
ประเทศฝรั่งเศส หลังจากโรงเรียนเปิด 2 วัน ตรวจพบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 70 คน ในกลุ่มเด็กนักเรียนจากเนอสเซอรี่ และโรงเรียนประถมหลายแห่งนับตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม โดยรัฐมนตรีศึกษาของฝรั่งเศส ออกมาระบุว่า นี่เป็นสัญญาณเตือนการระบาดของ COVID-19 อีกละรอก ทำให้มีการปิดสถานศึกษาที่มีความเสี่ยงต่อไปอีก
บทเรียนที่ “เกาหลีใต้” หลังจากเปิดเรียนวันแรก เมื่อ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่ต้องสั่งปิดอีกรอบ สำหรับโรงเรียนมัธยม 75 แห่ง เนื่องจากพบนักเรียน 2 คน ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งนักเรียนบางส่วนถูกส่งตัวกลับบ้านทันทีที่ไปในโรงเรียน สำหรับการเปิดเรียนของโรงเรียนในเกาหลีใต้ถูกเลื่อนออกมาหลายต่อหลายครั้งนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ในขณะที่เกาหลีใต้ก็ได้ใช้มาตรการการเรียนการสอนทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน
จีนเป็นประเทศแรกที่มีรายงานผู้ติดเชื้อและสามารถควบคุมการระบาดในประเทศได้ก่อนประเทศอื่นๆ แต่จากการผ่อนปรนมาตรการและเริ่มกลับไปใช้ชีวิตปกตินั้น กลับมีรายงานการติดเชื้อ จากตลาดอาหารทะเลแห่งหนึ่งใน กรุงปักกิ่ง (15 มิ.ย.) ทางการจีนออกมาตระการในการควบคุมในทันทีโดยเริ่มจากการปิดตลาด การควบคุมคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องและการตรวจหาผู้ติดเชื้อรวมไปถึงการสืบสวนโรคเพื่อสกัดการแพร่กระจายให้ได้มากที่สุด และจากการสอบสวนโรคยังทำให้สันนิฐานที่มาของเชื้อได้อีกด้วย ส่วนการเปิดโรงเรียนในประเทศสาธารณะรัฐประชาชนจีนนั้น มีการเว้นระยะห่างโดยที่เราจะเห็นภาพน่ารักๆ ในการให้เด็กนักเรียนสวมหมวกที่มีปีกยาวเพื่อให้เด็กๆ ต้องรักษาระยะห่าง และการรักษาสุขอนามัยในโรงเรียน ตามมาตรการณ์ที่ทางการประกาศ ช่วยลดความเสี่ยงในการระบาดเพิ่มขึ้นด้วย
จากบทเรียนจากต่างประเทศทำให้เราเห็นว่าการดูแลตนเองและบุตรหลานของท่านให้ระมัดระวังตนเอง พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับสถานศึกษาในมาตรการของรัฐที่วางเอาไว้ อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการกลับมาเปิดเรียนอีกครั้งอย่างปลอดภัยของประเทศไทย
ด้วยความปรารถนาดีจาก ทีมงานครูฝรั่ง ดอทคอม