จากสถานการณ์โรคระบาดโควิดในประเทศไทยปีนี้ มีการระบาดรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้ทางป้องกันที่รับการพูดถึงในขณะนี้คือ การฉีดวัคซีนป้องกัน มีการพัฒนาสำเร็จและมีการฉีดไปแล้วในหลายประเทศในอาเซียน รอบๆ ประเทศเรา เช่น สิงค์โปร ได้เริ่มฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา, ทางประเทศลาว และเวียดนามได้รับทางสนับสนุนวัคซีนจากประเทศจีน เพื่อฉีดให้กับประชาชน ส่วนประเทศไทยนั้น ยังอยู่ในขั้นทดลอง ทดสอบ และ ขออนุมัติจาก อย. คาดว่าอาจจะพร้อมประมาณปลายปีนี้ ซึ่งการฉีดวัคซีนจะเรียงตามความเสี่ยงของการสัมผัสกับเชื้อโรค น่าจะเริ่มจาก บุคลากรทางการแพทย์ และ ผู้สูงอายุ ส่วนข่าวที่มีโรงพยาบาลเอกชนบางแห่งเปิดให้จองวัคซีนนั้น ประธานกรรมการโควิด-19 ได้ออกมาชี้แจงว่า “น่าจะเป็นการตกลงกับบริษัทต่างประเทศเองของ รพ. เอกชน แต่ที่ต้องเตือนนิดหนึ่ง ตราบใดที่วัคซีนได้ถูกรับรองจากต่างประเทศ แต่นำมาใช้ในเมืองไทย ก็ต้องได้รับการรับรองจาก อย. ก่อน ไม่สามารถได้มาแล้วฉีดได้เลย ต้องผ่านการรับรองจาก อย. ก่อนเช่นเดียวกัน”
การฉีดวัคซีนนี้มีผลเพื่อป้องการการติดเชื้อ ซึ่งไม่ได้เป็นการรักษาและจะต้องทำการฉีด 2 โดสอย่างน้อย หรือสองครั้งในระยะเวลาที่ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ ถึงจะมีการป้องกันได้เกิน 50 % หากท่านได้รับวัคซีนไปแล้วเข็มแรก ท่านยังต้องมีมาตรการป้องกันตัวเหมือนเดิม และเมื่อฉีดวัคซีนไปแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับภูมิของแต่ละคนด้วยซึ่งจะให้ผลในการป้องกันแตกต่างกัน โดยระยะเวลาป้องกันนั้น ยังไม่สามารถระบุได้เนื่องจากระยะเวลากระชั้นชิดในการทดสอบ
สุดท้ายนี้ มาตรการเดิมคือการ รักษาระยะห่าง สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่ชุมชน ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัส ในจุดเสี่ยงต่างๆ ยังขอความร่วมมือให้ยึดถือปฏิบัติกันต่อไปนะคะ ทางทีมงานครูฝรั่งขอเอาใจช่วยให้ทุกท่านผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันนะคะ