วันมาฆะบูชา ปี 2563 นี้ ตรงกับวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ทางราชการได้กำหนดให้วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นวันหยุดชดเชย
วัน มาฆบูชา เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ มีเหตุการณ์อัศจรรย์ที่ พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าจำนวน ๑,๒๕๐ รูปมาเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ โดยมิได้นัดหมายกันพระสงฆ์ ทั้งหมดเป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา ๖ และเป็นผู้ที่ได้รับการอุปสมบท โดยตรงจากพระพุทธเจ้า ในวันนี้พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดง โอวาทปาติโมกข์ ในที่ประชุมสงฆ์เหล่านั้น ซึ่งเป็นทั้งหลักการอุดมการณ์ และวิธีการปฏิบัติที่ นำไปใช้ได้ทุกสังคม มีเนื้อหา โดยสรุปคือให้ละความชั่วทุกชนิด ทำความดี ให้ถึงพร้อมและทำจิตใจให้ผ่องใส เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญทางพุทธศาสนา พระภิกษุ 1,250 รูป ได้มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย, วันที่องค์ประกอบสำคัญครบ 4 ประการ หรือ “วันจาตุรงคสันนิบาต” รวมถึงกิจกรรมเวียนเทียน
กิจกรรมที่ควรปฎิบัติในวันมาฆะบูชา ที่พุทธสาสนิกชนพึงกระทำในวันสำคัญวันนี้
เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า : เริ่มตั้งแต่เช้าตรู่
ควรไหว้พระ นั่งสมาธิ ทำจิตให้สงบหลังจากตื่นนอน และเตรียมถวายอาหารบิณฑบาตแด่พระภิกษุสามเณรตามความเหมาะสม
ช่วงสาย: เดินทางไปวัดที่อยู่ใกล้บ้าน
เพื่อจะทำบุญ และสมาทานรักษาศีล 5หรือ ศีล 8 บ้าง
ช่วงบ่าย : ฟังพระธรรมเทศนาในวัดที่จัดให้มีพิธีเทศน์ในตอนกลางวัน
หรือไปนั่งสมาธิตามความสะดวก เหมาะสม
ช่วงเย็น : เตรียมตัวเพื่อเวียนเทียนเป็นพุทธบูชา
โดยเตรียมดอกไม้ ธูปเทียน หรือบางวัด มีการจัดเตรียมและบริการไว้
ซึ่งจะเวียนรอบพระอุโบสถ หรือพระเจดีย์ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระปฏิมาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ข้อปฏิบัติขณะเวียนเทียน : กล่าวคำบูชาตามพระสงฆ์เสร็จแล้ว
ในขณะจุดธูปเทียน และขณะเดินถือธูปเทียน ควรระมัดระวัง ในการเดินแต่ละรอบนั้น
อาจกล่าวคำสรรเสริญพุทธคุณในการเดินรอบแรก (อิติปิ โส ภควาฯ)
กล่าวคำสรรเสริญพระธรรมคุณ (สฺวากขาโต ภควตา ธัมโมฯ) กล่าวคำสรรเสริญพระสังฆคุณ
(สุปฏิปันโน ภะคะวะโตฯ) หรือทำจิตให้สงบเป็นพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ
และสังฆานุสสติ จนครบ 3รอบแล้ววางดอกไม้ และปักธูปเทียนลงในกระถางและเชิงเทียน
หรือในที่เหมาะสม เสร็จแล้วกราบพระเป็นเสร็จพิธี หรืออาจจะรอฟังพระธรรมเทศนา
ซึ่งบางวัดมีการจัดแสดงพระธรรมเทศนาก่อนหรือหลังการเวียนเทียนด้วย